S HOTELS AND RESORTS

ห่วงโซ่คุณค่าธุรกิจ (Business Value Chain)

ห่วงโซ่คุณค่าธุรกิจของ SHR ครอบคลุมกิจกรรมหลักที่เชื่อมโยงกันอย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่กระบวนการภายในโรงแรมที่บริษัทฯ บริหารจัดการเองไปจนถึงการพัฒนาโครงการใหม่และการปรับปรุงโรงแรมที่มีอยู่ โดยมีเป้าหมายในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า การส่งเสริมความยั่งยืนในสังคมและสิ่งแวดล้อม และการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันในตลาด

1. โรงแรมที่บริษัทฯ บริหารจัดการเอง และ โรงแรมภายใต้สัญญาบริหารจัดการโรงแรม (HMA)

 เริ่มต้นจากการจัดการโรงแรมที่ SHR บริหารจัดการเองและโรงแรมภายใต้สัญญาบริหารจัดการโรงแรม (HMA) ซึ่งเน้นการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าผ่านกระบวนการการตลาดที่มีประสิทธิภาพ การใช้แพลตฟอร์มการจองห้องพักที่สะดวกสบาย และการประเมินความพึงพอใจของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับปรุงบริการให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ SHR ยังให้ความสำคัญกับการจัดซื้อสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการจ้างงานในพื้นที่เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่น ทั้งนี้ยังมีการพัฒนาและฝึกอบรมพนักงานให้มีทักษะที่ดีในการให้บริการที่มีคุณภาพ

2. โรงแรมที่บริหารโดยบุคคลภายนอก/ โรงแรมของบริษัทฯ ในสหราชอาณาจักร/โรงแรมภายใต้กิจการร่วมค้า

 การขยายธุรกิจในส่วนของโรงแรมที่บริหารโดยบุคคลภายนอกและโรงแรมของบริษัทฯ ในสหราชอาณาจักร รวมถึงโรงแรมภายใต้กิจการร่วมค้า เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับพันธมิตรภายนอก ซึ่งช่วยขยายโอกาสในการเติบโตและสร้างความหลากหลายให้กับธุรกิจ โดย SHR มุ่งมั่นในการรักษามาตรฐานการบริการที่สูง และการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพทั้งในด้านการตลาดและการดำเนินงาน เพื่อให้ทุกโรงแรมสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างยั่งยืน

3. โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและปรับปรุง

 ในด้านการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ และการปรับปรุงโรงแรมที่มีอยู่ SHR มุ่งหวังที่จะเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและตอบสนองความต้องการของลูกค้า การพัฒนาโครงการใหม่และการปรับปรุงโรงแรมที่มีอยู่จะช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า พร้อมทั้งเพิ่มคุณค่าให้แก่ธุรกิจ โดยกระบวนการจัดซื้อและการบริหารจัดการคู่ค้าจะคำนึงถึงการเลือกสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ และสามารถสร้างประสิทธิภาพในระยะยาว นอกจากนี้ SHR ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชน และการมีส่วนร่วมในกิจกรรมท้องถิ่น เพื่อสร้างความร่วมมือที่ดีในระยะยาวและสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน

 การดำเนินการทั้งหมดในห่วงโซ่ธุรกิจนี้มีเป้าหมายหลักในการสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า ซึ่งสะท้อนออกมาในรูปแบบของการเดินทางที่มีคุณค่า (Enriching Journey) ที่ลูกค้าจะได้รับประสบการณ์การเข้าพักที่น่าจดจำและประทับใจ ไม่เพียงแต่ในด้านการบริการที่มีคุณภาพเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการมีส่วนช่วยในการพัฒนาสังคมและชุมชนให้ยั่งยืน และการรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งความหลากหลายทางชีวภาพให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์และยั่งยืนในระยะยาว

การกำหนดประเด็นที่มีนัยสำคัญ

1. ระบุประเด็นความยั่งยืนที่มีนัยสำคัญ

 บริษัทฯ ได้ดำเนินการวิเคราะห์และทบทวนบริบทด้านความยั่งยืน (Sustainability Context) ที่ครอบคลุมทั้งห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจ เพื่อประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นทั้งทางการเงินและที่ไม่ใช่ทางการเงิน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสิ่งแวดล้อม เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ บริษัทฯ กำหนดกรอบการพิจารณาประเด็นด้านความยั่งยืน โดยยึดมั่นในมาตรฐาน แนวทาง และกรอบการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ได้รับการยอมรับทั้งในระดับประเทศและระดับสากล เพื่อนำมาปรับใช้กับการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ประกอบด้วย

  • มาตรฐาน GRI (Global Reporting Initiative) - มาตรฐานสากลที่ใช้ในการรายงานความยั่งยืน เพื่อเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
  • SET ESG Rating - ชุดประเด็นความยั่งยืนเฉพาะเจาะจงสำหรับกลุ่มบริการซึ่งพัฒนาโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 
  • เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals: SDGs) - กรอบเป้าหมายระดับโลกที่กำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาทางสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม
  • Green Globe Certificate - มาตรฐานระดับสากลที่รับรองการดำเนินงานด้านความยั่งยืนในธุรกิจโรงแรม
  • ปรัชญาและนโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ – แนวทางหลักในการบริหารจัดการด้านความยั่งยืนขององค์กร
  • รวบรวมความคิดเห็นและความคาดหวังจากผู้มีส่วนได้เสียผ่านหลากหลายช่องทาง เช่น การสื่อสารจากหน่วยงาน การประชุมผู้บริหาร และการสำรวจความคิดเห็นจากพนักงานและชุมชน 

2. จัดลำดับประเด็นที่สำคัญ

บริษัทฯ ได้นำประเด็นความยั่งยืน (Sustainability Materiality Matrix) ที่มีอยู่เดิมมาร่วมหารือกับผู้บริหารและฝ่ายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เพื่อทบทวนลำดับประเด็นที่เป็นสาระสำคัญ (Materiality) โดยพิจารณาจากประเด็นที่มีอิทธิพลต่อการประเมินและการตัดสินใจของผู้มีส่วนได้เสีย (Influence on Stakeholder Assessments and Decisions) และผลกระทบที่สำคัญจากการดำเนินงานขององค์กรที่มีต่อเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม (Significance of Economic, Environmental, and Social Impacts) ซึ่งสอดคล้องตามมาตรฐานของ GRI Standards

3. ตรวจสอบประเด็นให้ครบถ้วนสมบูรณ์

บริษัทฯ ทำการทบทวนประเด็นต่าง ๆ ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ จากนั้นจึงนำเสนอประเด็นความยั่งยืนดังกล่าวต่อประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รวมถึงคณะกรรมการบรรษัทภิบาลและการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อขอข้อคิดเห็นและพิจารณาความเหมาะสม เพื่อให้มั่นใจได้ว่าประเด็นความยั่งยืนที่มีนัยสำคัญของบริษัทฯ จะสามารถสะท้อนความต้องการและความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสียอย่างถูกต้อง และสอดคล้องกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของบริษัทฯ ได้อย่างครบถ้วน

4. สื่อสารกับผู้มีส่วนได้เสีย

บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการสื่อสารอย่างต่อเนื่องและโปร่งใสกับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม เพื่อสร้างความมั่นใจว่าบริษัทฯ มีการดำเนินงานด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง และสามารถตอบสนองต่อประเด็นที่ผู้มีส่วนได้เสียให้ความสำคัญได้อย่างเหมาะสม ตรงประเด็น และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของบริบททางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม