S Hotels and Resorts

ก๊าซเรือนกระจกและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

SHR ตระหนักถึงความท้าทายที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งอาจส่งผลต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในระยะยาว เราจึงมุ่งมั่นบริหารจัดการทรัพยากรพลังงาน น้ำ และของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเสริมสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ ผ่านการตั้งเป้าหมายชัดเจนและกำหนดตัวชี้วัด (KPI) เพื่อวัดผลความก้าวหน้าในการดำเนินงาน พร้อมทั้งปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง สร้างความเชื่อมั่นและตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

เป้าหมาย

  • ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับปีฐาน
  • เป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2573 (Caron Neutral 2030)

ผลการดำเนินงาน

โอกาสและความเสี่ยง

การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนเปิดโอกาสในการยกระดับสู่การท่องเที่ยวยั่งยืน ดึงดูดนักท่องเที่ยวและพันธมิตรที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และเพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งทุนที่สนับสนุนแนวทาง ESG โดยเฉพาะการดำเนินงานที่สอดคล้องกับ BCG Model และเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ

ในทางกลับกัน บริษัทฯ เผชิญความเสี่ยงจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น ภัยธรรมชาติ การกัดเซาะชายฝั่ง และภาษีคาร์บอน ซึ่งอาจส่งผลต่อรายได้ ภาพลักษณ์ และต้นทุนการดำเนินงาน หากไม่มีการปรับตัวอย่างมีประสิทธิภาพ

แผนการดำเนินงานระยะยาวด้านคาร์บอน

ปี 2561

  • Carbon Kick-off Plan: จัดทำแผนงานคาร์บอนขององค์กร (Singha Estate Kick-off Plan)

ปี 2562

  • 1st Carbon Neutral Hotel: มีการประเมินคาร์บอนและชดเชยคาร์บอนเป็นศูนย์ (Carbon Neutrality) ณ โรงแรมสันติบุรี เกาะสมุยเป็นแห่งแรก

ปี 2563

  • Offset Carbon for SAii Phi Phi Island Village: ขยายขอบเขตการประเมินและชดเชยคาร์บอน (Carbon Offset) ให้ครอบคลุมถึงยังโรงแรมทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ

ปี 2564

  • Achieve 100% Carbon Assessment Coverage: ขยายขอบเขตการประเมินคาร์บอนให้ครอบคลุมถึงสำนักงานใหญ่และการดำเนินงานทั้งหมดของ SHR

ปี 2565

  • Increase Environmentally Friendly Energy Mixed: ขยายขอบเขตการประเมินคาร์บอนให้ครอบคลุมถึงสำนักงานใหญ่และการดำเนินงานทั้งหมดของ SHR เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและลดปริมาณการปลดปล่อยคาร์บอนด้วยเทคโนโลยีสีเขียว

ปี 2566

  • วางเป้าหมายการเป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2573 (Carbon Neutrality 2030)
  • ศึกษาแนวทาง Decarbonization Pathway เพื่อลดการปล่อยปริมาณก๊าซเรือนกระจกขององค์กร
  • ติดตั้ง Smart Energy Technologies:  ในห้องพักโรงแรม เช่น เซนเซอร์ประตูและหน้าต่างในห้องพักโรงแรมเพื่อประหยัดการใช้พลังงาน โดยเฉพาะในกรณีที่มีการเปิดประตูหรือหน้าต่างทิ้งไว้ ระบบจะปิดแอร์เพื่อประหยัดพลังงาน

ปี 2567

  • ติดตั้ง Smart Technologies เช่น เซนเซอร์ประตูและหน้าต่างในห้องพักโรงแรมในไทยและมัลดีฟส์ กว่า 730 เซนเซอร์ เพื่อประหยัดการใช้พลังงาน 
  • เปลี่ยนแอร์รุ่นใหม่ที่ใช้สารทำความเย็นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ปี 2568

  • Achieve 10% Carbon Reduction Target: บรรลุเป้าหมายลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนลงร้อยละ 10

ปี 2573

  • Achieve 20% Carbon Reduction and Carbon Neutrality: บรรลุเป้าหมายการลดปริมาณการปลดปล่อยคาร์บอนลงร้อยละ 20 ตามข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) และการเป็นองค์กรที่เป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality Organization)

การมีส่วนร่วมในโครงการปลูกป่าด้วยปลายนิ้ว

บริษัทฯ ได้เข้าร่วมโครงการปลูกป่าด้วยปลายนิ้วของ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เพื่อปลูกป่า โดยตั้งเป้าสร้างพื้นที่ป่ากว่า 1 ล้าน ตร.ม. ณ สิงห์ ปาร์ค จังหวัดเชียงราย โดย พื้นที่ดังกล่าวถือเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำสำคัญในเขตจังหวัดภาคเหนือ และมีความสำคัญต่อระบบนิเวศและสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากเป็นพื้นที่ป่าที่มีความหลากหลายของพันธุ์พืชและสัตว์ป่า

การปรับปรุงและพัฒนานวัตกรรมด้านพลังงาน

โครงการดัดแปลงรถกอล์ฟไฟฟ้า โดยเปลี่ยนจากแบตเตอรี่แบบน้ำกลั่นมาเป็นแบตเตอรีลิเทียม 

ทีมวิศวกร จากโรงแรมสันติบุรี เกาะสมุย ได้ดำเนินโครงการดัดแปลงรถกอล์ฟไฟฟ้า โดยมีการดัดแปลงและปรับเปลี่ยนแบตเตอรี่จากเดิมที่ใช้แบตตารี่แบบน้ำกลั่นมาเป็นแบตเตอรีลิเทียม (Golf Cart Lithium Battery) ซึ่งช่วยโรงแรมประหยัดค่าใช้จ่ายด้านการเปลี่ยนแบตตารี่ และให้พลังงานไฟฟ้าที่คงที่ ทั้งนี้ โรงแรมสันติบุรีได้ทำการดัดแปลงรถกอล์ฟไฟฟ้าไปแล้ว 5 คัน  นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวยังช่วยส่งเสริมให้มีการจ้างงานในชุมชนในพื้นที่เกาะสมุย โดย มีการว่าจ้างแรงงานในพื้นที่ รวมถึงจัดซื้อจัดหาวัสดุเพื่อนำมาดัดแปลงรถกอล์ฟไฟฟ้า

ประโยชน์จากการเปลี่ยนเป็นแบตเตอรี่ลิเทียม

  • มีน้ำหนักเบากว่าแบตตารี่น้ำกลั่น แบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออนมีน้ำหนักประมาณ 600 กรัม 
  • การลดปริมาณสารตะกั่ว: แบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออนไม่มีสารตะกั่วจึงลดการปนเปื้อนในดินและน้ำ
  • การลดปริมาณของเสีย: แบตเตอรี่ลิเทียมมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า ทำให้ลดจำนวนแบตเตอรี่ที่ต้องทิ้งและรีไซเคิลได้
  • การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก: การชาร์จแบตเตอรี่ลิเทียมใช้พลังงานน้อยกว่าและมีประสิทธิภาพสูงกว่า
  • ต้นทุนการเปลี่ยนแบตเตอรี่: แม้ว่าแบตเตอรี่ลิเทียมจะมีราคาสูงกว่าในตอนแรก แต่เนื่องจากมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า ทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย และเมื่อคำนวณต้นทุนระยะยาวจะประหยัดกว่าการใช้แบตเตอรี่รุ่นเก่า
  • ต้นทุนการบำรุงรักษา: ลดลงเนื่องจากแบตเตอรี่ลิเทียมไม่ต้องการการบำรุงรักษามากเหมือนแบตเตอรี่รุ่นเก่า
  • ประสิทธิภาพการใช้งาน: การชาร์จที่รวดเร็วขึ้นและระยะทางต่อการชาร์จที่ไกลขึ้น ช่วยลดเวลาการหยุดใช้งานเพื่อชาร์จแบตเตอรี่

ทั้งนี้ ในระยะเวลา 5 ปี การใช้แบตเตอรี่ลิเทียมแทนแบตเตอรี่แบบน้ำสามารถช่วยโรงแรมประหยัดเงินได้ประมาณ 63,000 บาท และช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากแบตตารี่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าและอัตราการคายประจุที่ต่ำกว่า

โครงการพลังงานสะอาด

บริษัท S.IF ซึ่งเป็นบริษัทคู่ค้าและเป็นบริษัทลูกของ สิงห์ เอสเตท ได้ทำงานร่วมกับทีมวิศวกรของโรงแรมภายใต้การบริหารจัดการเองของ บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ต จำกัด (มหาชน) เพื่อขับเคลื่อนและดำเนินโครงการพลังงานสะอาด โดยมีการติดตั้งแผง โซล่า เซลล์ ในพื้นที่โรงแรมหลายๆ แห่ง เช่น โรงแรม สันติบุรี เกาะสมุย โรงแรม ทราย ลากูน่า ภูเก็ต โรงแรม ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ และโครงการ CROSSROADS มัลดีฟส์ เป็นต้น

ทั้งนี้ โครงการพลังงานสะอาดสามารถช่วยโรงแรมประหยัดพลังงานได้อย่างน้อย 4% และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ อีกทั้งส่งเสริมให้มีการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีจากการใช้น้ำมันสู่พลังงานสะอาด  ในการนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดในอนาคต เพื่อเสริมสร้างความยั่งยืนและความมั่นคงทางพลังงานในการดำเนินกิจการ 

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ รายงานการพัฒนาอย่างยั่งยืน หัวข้อ ก๊าซเรือนกระจกและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ