Keep in touch

การบริหารจัดการความเสี่ยง (Risk Management)

SHR วางนโยบายและแผนบริหารความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ เพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากความเสี่ยงต่าง ๆ ทั้งด้านภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม พายุ ไฟป่า ซึนามิ แผ่นดินไหว และดินถล่ม รวมถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของแขกผู้เข้าพักและพนักงาน โดยมีการตรวจสอบระบบงานไฟฟ้า ประปา อาคาร และสภาพแวดล้อมอย่างสม่ำเสมอ พร้อมจัดทำแผนรับมือเหตุฉุกเฉิน เช่น การซ้อมอพยพ การสื่อสารกับหน่วยงานท้องถิ่น และการฝึกอบรมพนักงานเป็นประจำ นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการประเมินความเสี่ยงด้านการเงิน ชื่อเสียง และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น ภัยแล้ง เพื่อรักษามาตรฐานการให้บริการที่มีคุณภาพและสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

แผนการบริหารความเสี่ยง

ดำเนินแผนบริหารความเสี่ยงที่ครอบคลุม 4 ขั้นตอนหลัก ได้แก่

  1. การประเมินความเสี่ยง – วิเคราะห์ความเสี่ยงรายประเด็น เพื่อระบุปัจจัยคุกคามใหม่ ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจ
  2. การลดความเสี่ยง – ดำเนินมาตรการเชิงป้องกัน เช่น ติดตั้งระบบเตือนภัย ปรับปรุงโครงสร้างอาคาร และจัดเก็บเอกสารสำคัญในพื้นที่ปลอดภัย
  3. การเตรียมความพร้อม – จัดการฝึกซ้อมแผนฉุกเฉิน และตั้งทีมตอบโต้เฉพาะกิจ
  4. การฟื้นฟูหลังเกิดเหตุ – ฟื้นฟูการดำเนินงานของโรงแรมให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็ว โดยร่วมมือกับบริษัทประกันและชุมชนในพื้นที่

ทุกขั้นตอนจะได้รับการทบทวนและปรับปรุงอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์และความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ

แผนบริหารความต่อเนื่องของธุรกิจ

บริษัทฯ มีการวางนโยบายการบริหารความเสี่ยงองค์กร ได้วางกระบวนการบริหารความเสี่ยงเพื่อบ่งชี้เหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ รวมถึง วางมาตรการเพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่สามารถยอมรับได้ โดย บริษัทมีฝ่ายบริหารความเสี่ยงที่คอยลงไปตรวจสอบพื้นที่ของโรงแรม และประเมินความเสี่ยง ทั้งในส่วนของ Physical Risks และ Transitional Risks นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสนับสนุนให้องค์กรมีวัฒนธรรมด้านการบริหารความเสี่ยง รวมถึงเชิญชวนให้พนักงานทุกคนรายงานความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อองค์กร

เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินงานของโรงแรมจะไม่หยุดชะงักในสถานการณ์ฉุกเฉิน แผน BCP ยังครอบคลุมการฝึกอบรมพนักงานเป็นประจำเพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้ ซึนามิ แผ่นดินไหวหรือพายุรุนแรง รวมถึงมีระบบสำรองข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น แหล่งจ่ายไฟสำรองและระบบสื่อสารฉุกเฉิน นอกจากนี้ โรงแรมยังมีการประเมินความเสี่ยงอย่างต่อเนื่องและปรับปรุงแผนให้ทันสมัยอยู่เสมอ เพื่อให้สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วและรักษาความเชื่อมั่นของลูกค้าแม้ในยามวิกฤต

การเสริมสร้างวัฒนธรรมด้านการบริหารความเสี่ยง (Risk Culture)

SHR ให้ความสำคัญกับการปลูกฝังวัฒนธรรมด้านการบริหารความเสี่ยงในทุกระดับขององค์กร โดยผนวกแนวคิดการบริหารความเสี่ยงเข้ากับกลยุทธ์ธุรกิจและค่านิยมองค์กร (D-Dynamic) พร้อมจัดอบรม e-Learning และ Workshop สำหรับพนักงานทุกระดับ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการประเมินและจัดการความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง

บริษัทฯ มีการกำหนดบทบาทของผู้ประสานงานด้านความเสี่ยง และจัดประชุมผู้บริหารเพื่อประเมินความเสี่ยงรายไตรมาส พร้อมทั้งกำหนดตัวชี้วัด (KPI) เพื่อผลักดันการบริหารความเสี่ยงให้เกิดผลจริง

การบริหารความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

SHR บูรณาการความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเข้ากับการพัฒนาโครงการใหม่ พร้อมจัดตั้งกองทุนสำรอง (Reserve fund) สำหรับโรงแรมที่บริหารเอง เพื่อรองรับความเสียหายจากภัยธรรมชาติ เช่น ปัญหาหาดกัดเซาะ ทั้งนี้ คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการและการพัฒนาอย่างยั่งยืนมีหน้าที่กำกับ ทบทวน และติดตามแนวทางจัดการความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศ โดยมีการประชุมอย่างน้อยปีละ 4 ครั้ง

ปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ

SHR ตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจมีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในทั้งระดับกลยุทธ์และการปฏิบัติงาน โดยบริษัทฯ ได้ประเมินและติดตามปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่

  1. ความเสี่ยงจากภาวะผันผวนของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
    ธุรกิจโรงแรมมีความเชื่อมโยงกับภาวะเศรษฐกิจโลก เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ ภัยธรรมชาติ และโรคระบาด เช่น COVID-19 ซึ่งล้วนส่งผลต่อความเชื่อมั่นและพฤติกรรมการเดินทางของนักท่องเที่ยว
  2. ความเสี่ยงจากการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ
    บริษัทฯ มีการดำเนินงานในหลายประเทศ เช่น มัลดีฟส์ ฟิจิ และประเทศในกลุ่มยุโรป ซึ่งมีข้อกำหนดทางกฎหมาย วัฒนธรรม และสภาวะเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน อาจส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการและต้นทุนดำเนินงาน
  3. ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
    รายได้จากธุรกิจโรงแรมส่วนใหญ่เป็นสกุลเงินต่างประเทศ ขณะที่ต้นทุนบางส่วนเป็นเงินบาท ทำให้บริษัทฯ มีความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
  4. ความเสี่ยงจากการพึ่งพิงพันธมิตรธุรกิจ
    บริษัทฯ มีการร่วมมือกับพันธมิตรแบรนด์ระดับโลก เช่น Hilton, Outrigger และ Hard Rock ในการบริหารโรงแรม หากมีการเปลี่ยนแปลงในความสัมพันธ์หรือข้อกำหนดของพันธมิตร อาจส่งผลต่อภาพลักษณ์และประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ
  5. ความเสี่ยงด้านการเงินและภาระหนี้สิน
    การลงทุนขยายธุรกิจหรือปรับปรุงโรงแรมอาจต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการสภาพคล่อง การชำระหนี้ และการวางแผนเงินทุนอย่างรัดกุม
  6. ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
    การดำเนินงานของโรงแรมโดยเฉพาะในพื้นที่ชายฝั่งหรือบนเกาะ อาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น พายุ หรือภัยธรรมชาติ รวมถึงความคาดหวังจากนักลงทุนและลูกค้าในด้าน ESG
  7. ความเสี่ยงด้านบุคลากรและแรงงานภาคบริการ
    ธุรกิจโรงแรมพึ่งพิงบุคลากรคุณภาพสูงในการให้บริการ หากเกิดปัญหาการขาดแคลนแรงงาน การรักษาบุคลากร หรือการฝึกอบรมไม่เพียงพอ อาจส่งผลต่อคุณภาพของการให้บริการ
  8. ความเสี่ยงจากระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและความปลอดภัยทางไซเบอร์
    การบริหารโรงแรมยุคใหม่ต้องพึ่งพาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งในด้านการจองห้องพัก การจัดการข้อมูลลูกค้า และระบบหลังบ้าน หากเกิดเหตุขัดข้องหรือถูกโจมตีทางไซเบอร์ อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานและความเชื่อมั่นของลูกค้า

บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงอย่างรอบด้าน โดยดำเนินการตามหลักการบริหารความเสี่ยงของคณะกรรมการ COSO ERM Framework และมีการติดตาม ทบทวน และพัฒนาแผนรองรับอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ